วันนี้ ข่าวรอบโลก มีเรื่องราวสุดแปลกของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอทำเรื่องสุดเลือดเย็นได้ลงคอ ไปเริ่มกันเลยครับ จะเป็นอย่างไรถ้าผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมหมดสติในโรงพยาบาลและตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองถูกหมอข่มขืน? แต่คนทั้งเมืองไม่เชื่อเธอและกล่าวหาว่าเธอโกหก! สาวถูกหมอมอมยาข่มขืน แต่เมื่อตรวจ DNA เลือดไม่ตรงกัน เพราะไม่รู้ว่าหมอนี่ฝังเส้นเลือดปลอมในร่างกายตัวเอง! ในคืนฮัลโลวีนปี 1992 ที่เมือง Kipling ประเทศแคนาดา ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Candy เป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน คืนนั้น เคนทะเลาะกับแฟนจนไม่สบาย ฉันจึงขับรถไปหาเพื่อนที่ทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลในเมือง แต่เพื่อนของเธอไม่อยู่แล้ว พยาบาลคนอื่นๆ จึงบอกให้แคนดี้รอหมอตรวจร่างกายก่อนออกไป ไม่นานหมอที่มีชื่อว่า จอห์น ก็เข้ามาตรวจแคนดี้ดูแล้วบอกว่าจะฉีดยาให้เธอ แคนดี้ที่ไม่ทันจะปฏิเสธก็โดนจับฉีดยาจนสลบไปทันที! พอเธอสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็คิดว่าตัวเองโดนหมอข่มขืนแน่ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกป่วยหนักกว่าเดิมจนต้องนอนรพต่อ และพอตื่นมาอีกทีหมอก็ทักเธอว่า “ฝันร้ายสินะ” แคนดี้เห็นสีหน้าของหมอก็รู้แล้วว่าตัวเองโดนข่มขืน หลังจากออกจากโรงพยาบาล เธอก็นำเสื้อผ้าและชุดชั้นในไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่น กระทั่งพบว่าเธอถูกข่มขืนจริงๆ แคนดี้จึงแจ้งเรื่องให้หมอทราบ แต่แล้วทุกคนก็ต้องตะลึง เพราะตอนที่คุณหมอตรวจ DNA มันไม่ตรงกับสเปิร์มที่ตรวจพบบนเสื้อผ้าของแคนดี้! “เธอมันผู้หญิงหิวเงิน!” ต่อมาแคนดี้เรียกร้องให้จนททำการตรวจดีเอ็นเอหมออีกครั้ง แต่พอตรวจอีกครั้งก็ไม่ตรงอีก คนทั้งเมืองเลยด่าแคนดี้ว่าเป็นผู้หญิงเลวหิวเงิน ใส่ร้ายหมอที่เป็นบุคคลสำคัญของเมืองนี้ แคนดี้เลยเก็บเงินและจ้างนักสืบให้ไปแอบเอาตัวอย่างดีเอ็นเอมาตรวจเองและพบว่ามันตรงกัน! แต่หลักฐานนี้แคนดี้จะเอาไปใช้ไม่ได้เพราะไปแอบเอามา แคนดี้เลยเรียกร้องให้ตรวจดีเอ็นเออีกครั้งและก็ไม่ตรงอีก แต่แล้วก็ดันมีบุคคลนึงที่เป็นเหยื่อคนสำคัญนั่นก็คือลูกเลี้ยงของหมอเอง เด็กคนนี้แจ้งความกับตำรวจว่าเขาโดนหมอจับฉีดยาข่มขืนมานานแล้ว จนตำรวจบุกไปเจอหลักฐานถุงยางและยาสลบภายในบ้าน สุดท้ายเจ้าหน้าที่จับหมอตรวจดีเอ็นเอแบบละเอียดจนได้ผลตรงกันทั้งหมด หมอก็ยอมรับสารภาพว่าฝังเลือดของคนอื่นจนได้ผลปลอมมาตลอด…